บทความเรื่อง
ใช้พืชสมุนไพรป้องกันโรคในฤดูหนาว
ประเทศเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ในปีถัดไป
สิ่งที่เกิดขึ้นในฤดูหนาวที่เห็นได้ชัดเจนคืออุณหภูมิจะลดต่ำลงไปเรื่อย ๆ
เริ่มตั้งแต่ ๒๐ องศาเซลเซียส จนเกือบถึง ๐ องศาเซลเซียส หรืออาจถึงติดลบ คือ
ต่ำกว่า ๐ องศาเซลเซียส ทำให้มีผลกระทบต่อร่างกายได้
นายแพทย์นรา นาควัฒนนุกูล พูดถึง หลักทฤษฎีการแพทย์แผนไทย ว่า
ร่างกายคนเรามีธาตุเป็นองค์ประกอบ อยู่ ๔ ธาตุ ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และอาการเจ็บป่วยของคนเราจะขึ้นอยู่กับการเสียสมดุลของธาตุนั้น
ๆ ซึ่งการเจ็บป่วยในฤดูหนาวมักเกี่ยวกับธาตุน้ำในร่างกายเสียสมดุล
ร่างกายจะแสดงอาการที่พบบ่อย คือ อาการเจ็บคอ แสบคอ มีเสมหะ อาการดังกล่าว คือ
กลุ่มอาการของดรคระบบทางเดินหายใจ คนไทยเรามีวิธีการดูแลสุขภาพในช่วงฤดูนาวด้วยการแพทย์แผนไทยนำมาสมุนไพรปรับใช้เพื่อป้องกันหรือแก้หนาว
ด้วยสมุนไพรไทยที่หาได้ง่ายตามท้องตลาดหรือบริเวณบ้านมีมาก
ด้วยการปรับสมดุลของธาตุน้ำ ได้แก่
พริก chilli
พริกมีสารแคพไซซิน (capsaicin)
ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดในร่างกาย และทำให้ความรู้สึกหนาวเย็นบริเวณปลายนิ้วมือ-ปลายนิ้งเท้าลดลง
กระเทียม gralic
ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือด
โดยเฉพาะที่บริเวณผิวหนัง
กระเทียมสามารถรับประทานได้ทั้งสดและเป็นเครื่องปรุงอาหาร
ขิง singer
มีสารจิงเจอรอล (gingerol)
ช่วยลดโคเลสเตอรอลชนิดเลว ทำให้เลือดไม่แข็งตัวหรือจับเป็นลิ่มเลือดง่าย
ข่า galangal
มีสรรพคุณในการบำรุงธาตุไฟ ช่วยย่อยอาหาร
แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ช่วยลดเสมหะ บำรุงร่างกาย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
และต้านมะเร็ง กระชาย (finger root) เป็นพืชที่มีรสร้อน
มีวิตามิน เอ บี ๑๒ และแคลเซียม มีสรรพคุณ ช่วยระบบย่อยอาหาร
บรรเทาอาการจุกเสียดในกระเพาะอาหาร
กระเพรา basil โดยเฉพาะใบสดมีน้ำมันหอมระเหย
ซึ่งประกอบด้วย linalool และ methyl chavicol สรรพคุณ
เป็นยาแก้ขับลม แก้อาการจุกเสียด นำใบสดมาคั้นน้ำใช้ขับเสมหะ ขับเหงื่อ
หากมีแผลหรือเป็นโรคผิวหนัง
นำน้ำคั้นกระเพราะมาทาบริเวณผิวหนังซึ่งสามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้บางชนิด
นอกจกานี้ยังมีฤทธิ์ป้องกันยุงได้นานถึง ๒ ชั่วโมง
โหระพา sweet
basil ใช้ใบคั้นเอาน้ำประมาณ ๑
ถ้วยผสมน้ำผึ้งจิบแก้ไอหลอดลมอักเสบ ขับเหง
สะเดา neem มีคุณค่าทางโภชนาการ
ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เส้นใย เบต้าแคโรทีน
วิตามินเอ วิตามินบี ๑ และ ๒ วิตามินซี และไนอาซีน ประโยชน์ของสะเดา
มีสรรพคุณบำรุงธาตุไฟ สร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย และแก้ไข
ช่วยให้อุจจาระละเอียดขับถ่ายคล่อง และช่วยให้นอนหลับสบาย
เรานิยมนำดอกและใบนำมารับประทาน
นอกจากเรื่องการปรับสมดุลของธาตุในร่างกายแล้ว
ในฤดูหนาวยังมีปัญหาเรื่องผิวหนังแห้ง
ถือเป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญแก่เราได้หากไม่ดูแลรักษา
เพราะเมื่อผิวหนังแห้งจะทำให้รู้สึกคัน รำคาญ
บางคนจะรู้สึกแสบร้อนมักเกาบริเวณผิวหนังที่คันจนเกิดแผลอักเสบเลือดออก
และมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเกิดอาการอักเสบ ซึ่งหากมีผิวแห้ง มีข้อแนะนำให้นำน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ทางจะช่วยให้ผิวเกิดความชุ่มชื้นได้นาน
หากใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันงาจะช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง
ป้องกันมะเร็งผิวหนังที่เกิดจากแสงแดดได้
เมื่อทราบถึงวิธีการใช้พืชผักสมุนไพรแล้ว
เป็นสิ่งที่ไม่ยากเพียงแค่เราใส่ใจต่อการรับประทานที่มีส่วนประกอบของพืชผักสมุนไพรเป็นประจำจะเป็นการป้องกันการเกิดโรคที่มักเกิดขึ้นในฤดูหนาว
นอกจากรับประทานพืชสมุนไพรแล้ว ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมออีกด้วย
เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง มีคำไทยกล่าวว่า "กันไว้ดีกว่าแก้”ดังนั้นเราควรป้องกันไว้ดีกว่ามาตามแก้ไขภายหลัง.